วันจันทร์, พฤศจิกายน 17, 2551

ไปสัมมนาที่ฟินแลนด์ ตอน 2


เช้่าวันที่ 11 เป็นวันแรกของการสัมมนา พวกเราลงมาอยู่พร้อมหน้ากัน ที่ Lobby ของโรงแรมตามเวลา 8.45 ที่กำหนดไว้ อากาศข้างนอกวันนี้ประมาณ 6 องศา มีฝนตกเล็กน้อย เมื่อมากันครบ ก็มีเจ้าหน้าที่พาเดินนำหน้าไปที่รัฐสภา ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 400 เมตรเท่านั้น เนื่องจากอากาศหนาว และผู้เข้าสัมมนาส่วนใหญ่มาจากประเทศในเขตร้อน ก็เลยหาเสื้อผ้ามาใส่กันเต็มที่ ออกเดินกันประมาณ 10 นาที ก็ถึงห้องสัมมนา พอเข้ามาในห้อง อากาศก็ปรับให้อุ่นทันที ทำให้เราต้องถอดเสื้อกันหนาวออกมาแขวนไว้แทน ก่อนที่จะเข้าประชุม ตามเวลา 9.00 น.

บรรยากาศของห้องประชุม จัดได้น่าสนใจมาก เพราะเป็นห้องขนาดใหญ่ และมีโต๊ะกลมขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง โดยมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ระดับนานาชาติได้เลย ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่า ส่วนใหญ่เขาจะใช้ประชุมคณะกรรมาธิการของยุโรปเป็นประจำ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน ก่อนเข้าประชุมใหญ่

การประชุมเปิดฉากด้วยการแนะนำหัวข้อการสัมมนาว่า ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และรูปแบบการดำเนินการ จะเริ่มต้นด้วยการให้วิทยากร นำเสนอเรื่องต่างๆ ให้ทราบก่อน โดยเฉลี่ยจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้น จะปล่อยให้ผู้เข้าสัมมนาแสดงความคิดเห็น โดยให้พูดผ่านผู้ดำเนินการเพียงคนเดียวเท่านั้น หลังจากนั้น ก็จะปล่อยให้วิทยากรตอบคำถามต่างๆ จนครบเวลา เป็นอันจบรายการ หลังจากนั้น ก็จะปล่อยให้ออกไปพักประมาณ 15 นาที ต่อจากนั้น ก็จะเข้าสู่หัวข้อต่อไป

สิ่งที่ได้จากการสัมมนาในวันนี้ก็คือ ทาง World Bank ได้มีการทำวิจัยในระดับโลก โดยมีการสำรวจและติดตามการทำงานของรัฐสภาต่างๆ ทั่วโลก และได้บทสรุปว่า ยิ่งในประเทศที่มีการตรวจสอบของรัฐสภาน้อยเท่าไหร่ โอกาสที่ประเทศนั้นๆ จะมีการทุจริตยิ่งมากขึ้นตามลำดับ สิ่งหนึ่งที่ทาง World Bank พยายามอยากให้้เกิดขึ้นในประเทศต่างๆ ก็คือ คณะกรรมาธิการที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Public Account Committee (PAC) โดยในที่สัมมนา มีเพียงประเทศไทย และอินโดนีเซียเท่านั้น ที่ยังไม่มีคณะกรรมาธิการในลักษณะนี้

รูปแบบการสัมมนาจะเป็นอย่างนี้ไปตลอดทั้งวันจนเย็น ไปจบลงที่ประมาณ 5 โมงเย็น โดยในช่วงพักเที่ยง รองประธานสภาของฟินแลนด์ เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน ซึ่งรูปแบบอาหารทีนี่จะเป็นอย่างเรียบง่าย เริ่มต้นที่สลัด ตามด้วยอาหารหลัก และจบลงด้วยของหวานและกาแฟ เป็นอันจบ ที่แปลกไปก็คือ เขาเีลี้ยงด้วยเนื้อกวาง มื้อค่ำ ก็มีการเลี้ยงรับรองที่ภัตตาคารด้วย แต่ผมขอตัว เพราะรู้สึกค่อนข้างเหนื่อย และยังผิดเวลาอยู่ จึงขอตัวเข้าที่พักแต่หัวค่ำ

สิ่งที่น่าสังเกตในวันนี้ก็คือ ตลอดการประชุม ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนเย็น และตลอดเวลาที่อยู่ในรัฐสภาของฟินแลนด์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของโทรศัพท์มือถือชื่อดัง Nokia แต่ผมไม่เคยเห็น หรือได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งต่างกันลิบลับกับเมืองไทย ที่คนหนึ่งมีมือถือคนละเครื่องสองเครื่อง และมีการโทรเข้า โทรออก ตลอดเวลา

ไม่มีความคิดเห็น: