
สวัสดีครับ เมษามาถึงแล้ว วันสงกรานต์ก็ใกล้เข้ามาเต็มที หลายสิ่งหลายอย่งที่เด็กๆ คิดถึงก็คือ ความสนุกสนานที่ได้เล่นน้ำวันสงกรานต์กัน แต่มีอย่างหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่มีใครอยากให้มาเลย แต่ปีนี้ มาเร็วกว่าที่คิดเสียอีก เพราะมาตั้งแต่ปลายๆ มีนาคมเลย นั้นก็คือ ความร้อนของแดด ที่ทวีความดุเดือดขึ้นทุกปี ปีนี้ ขนาดยังไม่ถึงวันที่ร้อนที่สุด แต่อุณหภูิิมิก็ทวีขึ้นไปถึง 41 องศาเสียแล้ว ร้อนชนิดที่คำโบราณเรียกกันว่า "ร้อนตับแตก" เลยทีเดียว
ในขณะที่ประเทศไทย บ่นกันเรื่องความร้อนที่มาเร็ว ข้ามไปอีกซีกโลกหนึ่ง ที่อเมริกา ตอนนี้ กำลังงงกันไปหมด ทั้งคน และต้นไม้ เพราะขณะนี้ เข้าเดือนเมษยนแล้ว โดยปรกติ จะถือว่าเข้าสิ้นสุดฤดูหนาวไปแล้ว ดอกไม้ก็จะเริ่มออกดอก เพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังเข้ามาเยือน แต่อยู่ดีๆ หิมะก็กลับตกลงมาอีกครั้ง และตกมากเสียด้วย ทำให้ต้นไม้ที่ออกดอกไปแล้ว ทำอะไรไม่ถูกเลย สำหรับคนก็เหมือนกัน ที่อยู่ีดีๆ หิมะก็ตกมาเต็มบ้าน รถอีกครั้ง และไม่รู้ว่าอากาศจะวิปริตเปลี่ยนแปลงไปได้อีกแค่ไหน
ภาวะต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ เป็นสิ่งที่เรียกขานกันว่า "ภาวะโลกร้อน" ซึ่งเกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์เรานี่เอง พวกเขาปล่อยไอเสีย และสิ่งต่างๆ ออกไปอย่างมากมายในช่วง ห้าสิบปีหลังนี้ พวกเราทำลายป่า ทำลายแหล่งน้ำ และทำลายธรรมชาติทุกอย่าง โดยไม่หยุดยั้งมาโดยตลอด โดยไม่เคยนึกเลยว่า สิ่งเหล่านี้ จะส่งผลร้ายกลับมาหาเราอีกครั้งได้เร็วขนาดนี้ ทุกคนรู้ดีว่า สักวันหนึ่ง โลกจะได้รับผลจากการที่มนุษย์ทำร้าย แต่ไม่มีใครฉุกคิดว่า มันจะมาเกิดในยุคสมัยนี้ มันน่าจะมาเกิดในอีกร้อยหรือสองร้อยปีข้างหน้ามากกว่า
แม้ว่าปรากฏการณ์โลกร้อนกำลังสำแดงเดชให้เราเห็นกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่สายเกินไปที่พวกเราจะมาช่วยกันปกป้องโลกให้อยู่นานต่อไป เพื่อที่ลุูกหลายเราจะได้อาศัยอยู่อย่างสุขสบาย สิ่งต่อไปนี้ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่พวกเราสามารถช่วยกันลดภาวะโลกร้อนได้ เช่น
1. ขับรถให้น้อยลง ขับเฉพาะเท่าที่จำเป็น
2. ใช้น้ำประปาให้น้อยลง อย่า เปิดทิ้งไว้
3. ปลูกต้นไม้ให้มากขึ้น มีที่ว่างตรงไหน ก็ปลูกทิ้งๆ ไว้ได้เลย
4. พยายามนำสิ่งของที่ใช้แล้ว กลับมาใช้ใหม่
5. เติมน้ำมันแบบที่มีสารผสมที่มาจากธรรมชาติ เช่น ก๊าซโซฮอล์
6. ประหยัดไฟ เปิดแอร์เท่าที่จำเป็น
7. อย่าใช้สิ่งของหรือวัสดุที่สร้างผลเสียให้กับสภาพแวดล้อม
ลองทำกันดูนะครับ ทำวันนี้ประหยัดได้สองต่อ ต่อที่หนึ่ง คือ ประหยัดเงินในกระเป๋าตัวเอง และอย่างที่สอง ช่วยประหยัดทรัพยากรของโลก ทำให้มีเหลือใช้นานขึ้น สวัสดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น