วันอาทิตย์, มกราคม 21, 2550

ทำธุรกิจอย่างไรให้รุ่งในปีหมู 2550

สวัสดีปีใหม่ 2550 ครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน เผลอไปนิดเดียว เดือนมกราคมก็กำลังจะหมดไปอีกแล้ว อีกไม่นานชาวนครสวรรค์เราก็จะฉลองตรุษจีนกันอีกแล้ว เท่าที่ทราบมา ปีนี้ชาวปากน้ำโพเขาจะร่วมมือร่วมใจกันจัดงานให้ยิ่งใหญ่สุดๆ สมกับที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา จะเสด็จมาร่วมชมกระบวนแห่ด้วย

เป็นเรื่องปรกติที่พอถึงปีใหม่ที บรรดาโหรต่างๆ ทั้งหมอดูและหมอเดาต่างก็ออกมาทำนายทายทักกันเต็มไปหมด บางก็เชื่อได้ บางก็เชื่อไม่ได้ แต่ที่น่าสังเกตก็คือ ปรกติแล้ว การทำนายของโหรแต่ละท่านจะแตกต่างกันไป ดีบ้าง ร้ายบ้าง แต่ปีนี้ เกือบทุกคนทายออกมาในทางเดียวกันว่า ปีนี้ เมืองไทยค่อนข้างจะโชคร้ายสักหน่อย จะมีเรื่องมากวนใจ และทำให้ระบบเศรษฐกิจของเราไม่ค่อยดีนัก แรกๆ ก็ไม่มีใครเชื่อสักเท่าไหร่นัก แต่พอเกิดเรื่องระเบิดในกรุงเทพเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ทุกคนก็เริ่มหันมาดูคำทำนายกันใหญ่ อ่านไปมากๆ ความหวังและกำลังใจก็ลดลงเรื่อยๆ ในที่สุดก็ไม่อยากจะคิดหรือทำอะไรเลย

ในฐานะที่เป็นชาวพุทธ สิ่งแรกที่พวกเราต้องมีกันก็คือ การมีสติครับ ก่อนอื่นต้องตั้งสติให้ดี และลองพิจารณาทุกอย่างด้วยเหตุด้วยผล ซึ่งใครก็รู้ว่า หมอดูนั้นคู่กับหมอเดา ไม่มีใครในโลกนี้หรอกที่จะรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ 100 % ถ้าเป็นจริงแล้ว ป่านนี้พวกเขาคงไม่ต้องทำอะไร นอกจากทำตามสิ่งที่โหรทำนายก็พอ

สิ่งต่อไปที่ต้องมีก็คือ การมีปัญญา เมื่อมีคนมาทักกันว่า ปีหมูนี้ ทุกอย่างจะเลวร้าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง หรือ เรื่องเศรษฐกิจ การใช้ปัญญาข้อแรกก็คือ ต้องหันมาสำรวจธุรกิจ หรืองานที่ทำอยู่ในปัจจุบันว่า เป็นอย่างไรบ้าง และดูซิว่า มีทางไหนที่จะต้องปรับปรุงหรือ พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีกไหม เช่น ถ้าคิดว่าปีนี้ จะค้าขายไม่ดี ก็ต้องมาดูซิว่า เราดูแลลูกค้าของเราดีแค่ไหนแล้ว มีวิธีไหนที่จะทำให้ดียิ่งขึ้นอีกหรือไม่ หรือ ถ้ารู้สึกว่าต้นทุนแพงขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องหาเวลามาพิจารณาดูว่า จะหาทางลดต้นทุนได้ตรงไหนบ้าง

สิ่งต่อไปที่ต้องมีก็คือ การมองหาช่องทางหรือโอกาสใหม่ๆ ในการทำธุรกิจ โลกใบนี้ไม่มีอะไรดีหรือเลวสำหรับทุกคนหรอก สิ่งที่แย่สำหรับธุรกิจหนึ่ง อาจเป็นโอกาสทองของอีกธุรกิจก็ได้ เช่น เมื่อเงินบาทแข็ง ในขณะที่ผู้ส่งออกพากันร้องโวยวายว่าขาดทุน แต่ผู้นำเข้ากลับมีความสุขอย่างมากที่สามาถสั่งของเข้ามาขายได้ในราคาที่ถูกลงเป็นต้น หรือ ขณะที่ทุกคนกำลังกังวลเรื่องความปลอดภัยในทรัพย์สิน ธุรกิจที่กำลังจะรุ่งก็คือ ธุรกิจรักษาความปลอดภัย และธุรกิจที่เกี่ยวกับกล้องวงจรปิดนั่นเอง

หลายคนอ่านแล้ว บอกว่า เรื่องอย่างนี้พื้นๆ ใครก็คิดได้ และไม่เห็นว่าจะช่วยให้ธุรกิจรุ่งได้เลย คำตอบก็คือ คนส่วนใหญ่ได้แต่คิด แต่ไม่ค่อยมีเวลาลงมือทำกัน สิ่งที่ผมอยากฝากไว้ให้พวกเราเก็บไปคิดก็คือ ในปีใหม่นี้ ถ้าอยากทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่รุ่ง หรือ งานที่ทำอยู่ก้าวหน้า ขอให้พวกเรามาเริ่มต้นด้วยสิ่งต่อไปนี้กันเถิด อันดับแรก ต้องหยุดการเสียเวลาไปกับสิ่งที่ไร้สาระ เช่น การออกไปเที่ยวตอนกลางคืน หรือ การกินเหล้า สูบบุหรี่ หรือ หมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับงานสังคม จนแทบไม่มีเวลาอยู่กับบ้าน ปีใหญ่นี้ ขอให้เรามาจัดเวลากันเสียใหม่ ลดการเที่ยวนอกบ้าน และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน และอยู่บ้านมากขึ้น สิ่งต่อไปก็คือ การหาเวลาออกไปซื้อหนังสือดีๆ มาอ่านให้มาก หรือไมก็หาเวลาไปอบรม หรือ เข้าคอร์สเกี่ยวกับความก้าวหน้าใหม่ๆ เพื่อทำให้ตัวเองมีความทันสมัยมากขึ้น และสิ่งสุดท้ายก็คือ ให้หันมาพิจารณาธุรกิจที่ทำอยู่ให้จริงๆ จัง เพื่อทำให้รู้ซิว่า ต้นตอของปัญหาอยู่ที่ไหน และ จัดการให้หมดไป สิ่งสุดท้ายที่อยากฝากไว้ ก็คือ ต้องมีกำลังใจที่ดี อย่าท้อแท้ และสิ้นหวังเป็นเด็ดขาด ต้องมองไปข้างหน้า และคิดในแง่ดีไว้เสมอ ถ้าทำได้อย่างนี้ ไม่แน่ ปีที่ทุกคนคิดว่าเป็นปีที่แย่ อาจเป็นปีทองของคุณก็ได้ ใครจะไปรู้ สวัสดี

สงกรานต์ จิตสุทธิภากร

ไม่มีความคิดเห็น: