วันอาทิตย์, มิถุนายน 17, 2550

สิ่งที่มีค่า ล้วนแต่เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

ในอดีต นักธุรกิจมักจะวัดความเก่งหรือความมั่งคั่งด้วยวัตถุ เช่น มีโรงงานใหญ่ขนาดใหญ่ สำนักงานทันสมัย พนักงานเป็นร้อยๆ หรือ มีเครือข่ายมากแค่ไหน แต่มาถึงวันนี้ ถ้าพูดกันถึงเรื่องอย่างนี้ เขาถือกันว่าเชยสุดๆ เพราะในทุกวันนี้ รูปแบบของการทำธุรกิจได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะพวกเขาต่างกำลังวิ่งหนีความเป็นเจ้าของสิ่งต่างๆ ให้มากที่สุด เช่น การมีโรงงานขนาดใหญ่ที่สุด การมีพนักงานมากที่สุด หรือ เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไปสู่การเป็นเจ้าของสิ่งที่ “มองไม่เห็น” และจับต้องไม่ได้กันแล้ว

อ่านถึงตอนนี้ หลายคนอาจรู้สึกงงๆ ว่าทำไมเป็นอย่างนี้ เพื่อให้เห็นภาพ ผู้เขียนขอยกตัวอย่างสักสองสามตัวอย่าง ตัวอย่างแรก เลือกที่ใกล้ตัวหน่อยก็คือ ขณะนี้ สิ่งที่บริษัทภาคภูมิใจกลับไม่ใช่การมีฝูงเครื่องบินจำนวนมาก หรือ มีเครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุด แต่กลับเป็น “กลิ่น” และ “บรรยากาศ” ขณะที่ให้บริการบนเครื่องบินต่างหาก จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม บริษัทนี้ ได้ทำการจดลิขสิทธ์”กลิ่น” และ ”บรรยากาศ” ไว้แล้ว ใครจะลอกเลียนไม่ได้โดยเด็ดขาด อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ เครือผู้บริหารโรงแรมระดับโลกแห่งหนึ่ง ได้จดลิขสิทธิ์ “กลิ่น” เฉพาะตัวที่ทางโรงแรมได้คิดค้นขึ้นจนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โรงแรมแห่งนี้ ตั้งใจแบบชนิดที่เรียกว่า พอคุณเปิดประตูโรงแรมเข้าไป ขนาดปิดตาไว้คุณยังบอกได้เลยว่ากำลังอยู่ในโรงแรมแห่งนี้

อีกตัวอย่างหนึ่งที่ไกลตัวนิด แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินเอื้อม ก็คือ เครื่องเล่น MP3 สุดฮิตอย่าง ipod ของบริษัทแอปเปิล หลักการออกแบบของเขาก็คือ เขาออกแบบเครื่องเล่นของเขาให้ทำงานได้ง่าย และมีเอกลักษณ์มากชนิดที่ว่า ด้านหน้าของเครื่องเล่นนี้ ไม่มีเครื่องหมายของบริษัทอยู่เลย แต่เพียงแค่คุณมองเห็นเครื่องเล่นนี้เพียงแวบเดียว คุณก็รู้ได้ทันทีว่า คนๆ นี้ กำลังใช้เครื่อง ไอพอด (ipod) อยู่ ที่เห็นได้ชัดก็คือ สายหูฟังของเครื่องรุ่นนี้ จะเป็นสายสีขาว ต่างจากเครื่องรุ่นอื่นๆ ที่มักจะใช้สีดำ

สองตัวอย่างที่ยกขึ้นมา อาจช่วยให้คุณพอจะวาดภาพออกว่า ถ้าต้องแข่งขันกันทางธุรกิจแล้ว หมดยุคแล้ว ที่จะแข่งขันกันว่า โรงงานใครจะมีขนาดใหญ่ที่สุด หรือ ใครจะมีพนักงานทำงานมากที่สุด สิ่งหนึ่งที่พวกเราต้องเร่งหามาก็คือ สิ่งที่ “มองไม่เห็น” นี่แหละ สิ่งเหล่านี้ นับวันจะมีค่ามากขึ้นเรื่อยๆ และมีความสำคัญกับความอยู่รอดของบริษัทเป็นอย่างมาก ว่ากันว่า สิ่งที่มีมูลค่าสูงที่สุดของบริษัทน้ำดื่ม “โคคาโคล่า” ก็คือ ตราสินค้านั่นเอง

สำหรับพวกเราซึ่งเป็นชาวนครสวรรค์ อย่างหนึ่งที่พวกเราต้องช่วยกันคิดก็คือ ทำอย่างไร ถึงจะมีสินค้าต่างๆ ที่เป็นยี่ห้อของตนเอง และช่วยกันสร้างตำนานหรือเรื่องราวต่างๆ ให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชนิดที่ว่า หาจากที่อื่นไม่ได้ นอกจากที่นครสวรรค์เท่านั้น ถ้าทำได้ อีกไม่นาน พวกเราก็จะพ้นจากสภาพการทำงานแบบที่ต้องแข่งขันกันด้วยราคาเสียที สวัสดีครับ